News
Hot!! เจอของจริง!!! พ่อค้ายาบ้าวัย 19 ปี ขี่ฟีโน่ ท้าดวลตำรวจขับทะลุด่านซิ่งหนีต่อหน้าต่อตา แต่แล้วก็ต้องหงอยเมื่อเจอของแรงกว่าอย่างนี้!!! News
5:26 PM
เจอของจริง!!! พ่อค้ายาบ้าวัย 19 ปี ขี่ฟีโน่ ท้าดวลตำรวจขับทะลุด่านซิ่งหนีต่อหน้าต่อตา แต่แล้วก็ต้องหงอยเมื่อเจอของแรงกว่าอย่างนี้!!!
ขณะนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ ส.ต.ต.ยุทธนา หงษ์ทอง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บางปะกง ซึ่งออกเวรแต่งชุดนอกเครื่องแบบจะมากินข้าวที่หน้าหมู่บ้านบูรพาพบเห็นเหตุการณ์ จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ ดูคาติ 850 สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไล่กวดติดตามไป นายเอสเห็นจวนตัวมีรถบิ๊กไบค์เครื่องแรง ไล่จี้ตูดมาติดๆ ตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์จากเลนคู่ขนาน บนถนนบางนา-ตราด ตัดเบี่ยงเข้าไปเลนทางด่วน ช่วง กม.42 พร้อมกับหันไปดู เห็นว่าจะถูกจับแน่ จึงโยนยาบ้าจำนวน 20 เม็ดทิ้งบริเวณร่องกลางถนน ใต้สะพานกลับรถ กม.43 หมู่ 12 ต.บางวัว จากนั้นเร่งเครื่องหนี แต่ ส.ต.ต.ยุทธนา ก็ควบดูคาติไล่บี้ไปไม่ยอมให้หนี
ฝ่ายนายเอส ใช้ความชำนาญขี่ส่ายไปมา บังทางไว้เพื่อไม่ให้ตำรวจแซง ก่อนจะเบี่ยงเข้าเลนคู่ขนาน ช่วง กม.46 แต่รถ เสียหลักจะพุ่งชนเสาไฟริมทาง ทำให้ต้องเบรกและหักหลบจนรถแฉลบล้ม ก่อนจะถูกจับตัวได้ที่หน้า บริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์ปริ๊นท์ จำกัด หมู่ 12 ต.บางปะกง จากนั้นสายตรวจได้แจ้งประสานขอกำลังตำรวจ และหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรามาเดินค้นหายาบ้านานเกือบ 30 นาที จึงพบยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกใส 1 ถุง จำนวน 10 เม็ด ตกอยู่บนเนินดิน และยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกใสอีก 10 เม็ดตกอยู่ในพุ่มไม้ใกล้กัน
ด้านนายเอส หลังถูกจับก็เผยความรู้สึกว่า ที่หนีเพราะตัวเองกำลังจะเอายาบ้าไปส่งให้ลูกค้าแล้วตำรวจมาเจอตัวพอดี จึงตกใจรีบขี่รถออกมา ซึ่งเชื่อว่าอาจจะถูกจับ แต่ก็ขอวัดใจตำรวจดูว่า จะแน่แค่ไหน เนื่องจากตำรวจใช้ ฮอนด้า ซีบีอาร์ 300 ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดใหญ่ จะควบคุมลำบาก แต่ไม่คิดว่าจะมีตำรวจที่ใช้รถบิ๊กไบค์ ดูคาติ 850 ซีซี ไล่กวดมาด้วย จำต้องหนีตายแบบไม่คิดชีวิต
ขณะที่ ส.ต.ต.ยุทธนา เปิดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า แม้ว่าจะอยู่ในช่วงออกเวร และกำลังจะไปกินข้าว แต่เพราะอาชีพตำรวจ อีกทั้งเห็นว่าเพื่อนกำลังไล่กวดจับกุมคนร้าย จึงรีบช่วยเหลืออย่างไม่รีรอ เพราะเชื่อว่าด้วยรถที่มีซีซีสูง ความเร็วมาก อาจจะช่วยเหลือเพื่อนได้ พร้อมรายงานแจ้งผลให้กับ พ.ต.ท.สุรเกียรติ ธนงค์ รอง ผกก.งานป้องกันและปราบปราม สภ.บางปะกง ได้ทราบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
ที่มา: http://www.cliphotkhaohit.com/news-details.php?item=8776
0 comments